วันเสาร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2562



บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 16
English For Academic Purposes
วันศุกร์ ที่ 22 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2562
เวลา 12.30-15.30 น.
The Knowledge
วันนี้เป็นการฟังแนะแนวข้อสอบปลายภาคว่านักศึกษาควรอ่านที่สาระไหนบ้าง ในหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย 





บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 15
English For Academic Purposes
วันศุกร์ ที่ 15 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2562
เวลา 12.30-15.30 น.
The Knowledge
สัปดาห์นี้ไม่มีการเรียนการสอนเนื่องจากเป็นสัปดาห์กีฬาสีของคณะ










บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 14
English For Academic Purposes
วันศุกร์ ที่ 15 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2562
เวลา 12.30-15.30 น.
The Knowledge
วันนี้ไม่มีการเรียนการสอนเนื่องจากมีกิจกรรมของทางคณะ กีฬาสีคณะศึกษาศาสตร์







บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 13
English For Academic Purposes
วันศุกร์ ที่ 8 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2562
เวลา 12.30-15.30 น.
The Knowledge
อัดเพลง อังกฤษที่ตนเองได้เลือกไว้  อาจารย์ให้เลือกมาหนึ่งเพลงและร้องเพลงอัดลงบล๊อก
ดิฉันเลือกเพลง Let it go


















บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 12
English For Academic Purposes
วันศุกร์ ที่ 1 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2562
เวลา 12.30-15.30 น.
The Knowledge
วันนี้เรียนที่ห้องสมุดของทางมหาวิทยาลัย เรียนรู้ถึงคำศัพท์อังกฤษ ในภาพยนตร์ Fast 8 หลังจากจบภาพยนต์ได้พูดถึงคำคมการศึกษาที่นักศึกษาเตรียมมา

1. "The roots of education are bitter, but the fruit is sweet"
"รากของการศึกษาอาจขม แต่ผลของมันนั้นหวาน"
2. "What is not started today is never finished tomorrow."
"ไม่เริ่มต้นในวันนี้ จะไม่มีทางสำเร็จในวันพรุ่งนี้"
3. "Experience tel1s you what what to do Confidence allows you to do it."


ประสบการณ์จะทำให้คุณรู้ว่าควรทำอะไร แต่ความมั่นใจจะทำให้คุณกล้ลงมือทำ
4. "The beautiful thing about learning is nobody can thak it away from you."
"สิ่งที่วิเศษสำหรับการเรียนรู้ คือไม่มีใครสามารถอามันไปจากคุณได้"
5. Naข seem, There's always a way
"อย่ายอมแพ้ที่จะทำตามความฝันแม้ว่ามันดูยากเกินจะเป็นความจริงได้ จำไว้เถอะ
ว่า ทุกอย่างมีหนทางและความเป็นไปได้ด้วยกันทั้งนั้น"
6. "Learn from yesterday, live for today, hope for tomorrow. The important
thing is not to stop questioning.


"เรียนรู้จากวันวาน ใช้ชีวิตอยู่ในวันนี้ ความหวังกับวันพรุ่งนี้ สิ่งสำคัญคืออย่า
หยุดตั้งค่าถาม"
7. "First say to yourself what you would be, and then do what you have to
do."
สิ่งแรกที่ต้องทำคือตั้งใจกับตัวเอง และลงมือทำ
8. Children learn as they play.Most importantly, in play children learn how to
เด็กเรียนรู้เมื่อเขาได้เล่น ที่สำคัญที่สุดคือ ในขณะที่เด็กเล่น เขาจะเรียนรู้วิธีการ
เรียนรู้
9. "Ecdution is the most oowerul weapon which you can use to change the
World."
การศึกษาเป็นอาวุธที่ทรงพลังที่สุดที่เราจะนมาใช้ในการเปลี่ยนแปลงโลก
10. Nobody has wisdom if he does not mow the Dark.


ไม่มีใครฉลสดโดยปราศจากการใด้รู้จักความโง่เขลามาก
11. "A chi1dhood without books that would be no childhood.That would be I
I like being shut out from the enchanted place where you can go and find
the rarest kind of joy."
"วัยเด็กที่ปราศจากหนังสือจะเป็นวัยเด็กไปได้อย่างไร เพราะนั่นย่อมไม่ต่างจาก
การถูกหมมิให้เข้าไปยังดินแดนอันน่าหลงใหล เพื่อค้นพบความสนุกสนานเพลิต
เพลินชนิดหาได้ยากยิ่ง"
12. Educating the mind wiyhout educating the heart is NO education
"ให้ความรู้แก่สมองโดยที่หัวใจปราศจากการเรียนรู้ มีดเท่ากับการไม่ได้เรียนรู้
อะไรเลย"
13. Anvone who wants to find knowledge He must study But if anyone who
wan ts to have intelligence must kmow to observe.
ใครก็ตามที่ต้องการหาความรู้ เบาต้องศึกษา แต่ถ้าใครที่อยากมีสติปัญญา ต้อง
รู้จักสังเกต
14. "Difference between school and life? In school you are taught a lesson
and than given a test. In life, you are given a test that teaches youb lesson.






บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 11
English For Academic Purposes
วันศุกร์ ที่ 25 เดือนตุลาคม พ.ศ.2562
เวลา 12.30-15.30 น.
The Knowledge
   นักศึกษาเตรียมงานที่อาจารย์ได้มอบหมายให้ทำเมื่อสัปดาห์ที่แล้วกลุ่มละ 3 คนเขียนนิทาน และมีลูกเล่นโดยมีภาพหรือคำที่สามารถถอดออกมาติดได้

  เรื่อง The Cow Named Moo



 เรื่อง The Hares and The Fox


เรื่อง The Lion and The Goat



เรื่อง The Fox and The Grapes




เรื่อง The Bat and The Weasel




เรื่อง The man and the wood


เรื่อง The Lion and The Mouse











บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 10
English For Academic Purposes
วันศุกร์ ที่ 18 เดือนตุลาคม พ.ศ.2562
เวลา 12.30-15.30 น.
The Knowledge
เรียนในเอกสารประกอบการสอนที่อาจารย์แจกให้ในสัปดาห์ที่แล้ว หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย ที่มีอายุ 3-6 ปี

หลักสูตรปฐมวัย สำหรับเด็กอายุ 3-6 ปี หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย สำหรับเด็กอายุ 3-6 ปี เป็นการจัดการศึกษา ในลักษณะของการอบรมเลี้ยงดูและให้การศึกษาเด็กจะได้รับการพัฒนาทั้งด้าน ร่างกาย อารมณ์-จิตใจ สังคม และสติปัญญา ตามวัยและความสามารถของแต่ละ
จุดมุ่งหมาย หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย สาหรับเด็กอายุ 3-6 ปี มุ่งให้เด็กมีพัฒนาการ ตามวัยเต็มศักยภาพและมีความพร้อมในการเรียนรู้ต่อไป จึงกำหนดจุดมุ่งหมาย เพื่อ ให้เกิดกับเด็กเมื่อจบการศึกษาระดับปฐมวัย ดังนี้ 1. ร่างกายเจริญเติบโตตามวัย แข็งแรง และมีสุขนิสัยที่ดี 2. สุขภาพจิตดี มีสุหรียภาพ มีคุณธรรม จริยธรรม และจิตใจที่ดีงาม 3. มีทักษะชีวิต และปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีวินัย และอยู่ ร่วมกับผู้อื่นได้อย่งมีความสุข 4. มีทักษะการคิด การใช้ภาษาสื่อสาร และการแสวงหาความรู้ได้เหมาะสมกับวัย
มาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย สำหรับเด็กอายุ 3-6 ปี กำหนดมาตรฐาน คุณลักษณะที่พึ่งประสงค์จำนวน 12 มาตรฐาน ประกอบด้วย 1. พัฒนาการด้านร่างกาย ประกอบด้วย 2 มาตรฐาน คือ มาตรฐานที่ 1 ร่างกายเจริญเติบโตตามวัยและมีสุขนิสัยที่ดี มาตรฐานที่ 2 กล้มเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กแข็งแรง ใช้ได้อย่างคล่องแคล่วและ ประสานสัมพันธ์กัน 2. พัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ ประกอบด้วย 3 มาตรฐาน คือ มาตรฐานที่ 3 มีสุขภาพจิตที่ดีและมีความสุข มาตรฐานที่ 4 ชื่นชมและแสดงออกทางศิลปะดนตรี และการเคลื่อนไหว มาตรฐานที่ 5 มีคุณธรรม จริยธรรม และมีจิตใจมีดีงาม 3. พัฒนาการด้านสังคม ประกอบด้วย 3 มาตรฐาน คือ มาตรฐานที่ 6 มีทักษะชีวิตและปฏิบัติตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาตรฐานที่ 7รักธรรมชาติ สิ่งแว๊ดล้อม วัฒนธรรมและความเป็นไทย มาตรฐานที่ 8 อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุขและปฏิบัติคนเป็นสมาชิกที่ดีของ สังคุมในระบอบ ประชาธิปไตย อันมีพระมากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 4. พัฒนาการด้านสติปัญญา ประกอบด้วย 4 มาตรฐาน คือ มาตรฐานที่ 9 ใช้ภาษาสื่อสารได้เหมาะสมกับวัย มาตรฐานที่ 10 มีความสามารถในการคิดที่เป็นพื้นฐานในการเรียนรู้ มาตรฐานที่ 11 มีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ มาตรฐานที่ 12 มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ และมีความสามารถในการแสวงหาความรู้ ได้เหมาะสมกับวัย จากนั้นอาจารย์ให้นักศึกษาจับกลุ่ม กลุ่มละ5-6 คน ทั้งหมด 4 กลุ่ม โดยแบ่งเป็น 4 หัวข้อตามพัฒนาการ 4 ด้าน ได้แก่ ด้านร่างกาย ด้านอารมณ์จิตใจ ด้านสังคม และ ด้านสติปัญญา จากนั้นให้สมาชิกในแต่ละกลุ่มหาความหมายคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ในหัวข้อของกลุ่มตนเอง พร้อมเขียนคำศัพท์ลงในกระดาษที่อาจารย์แจก และติดคำ ศัพท์ไว้บนกระด่านของแต่ละกลุ่ม ดังนี้

ด้านร่างกาย
Standard 1 Fat
Slim
Thin
Tall
Short
Small
Standard 2 Walk
Turn face
Dance
Jump
Run
Crawl
ด้านอารมณ์-จิตใจ
Standard 3 Laugh
Happy
Enjoy
Funny
Bashful
Standard 4 Sensitive
Angry
Cry
Standard 5 Pleased
Honest
ด้านสังคม
Standard 6 Sufficiency
Rights
Responsibity
Freedom
Standard 7 Environment
Aesthetic
Moral
Culture
Standard 8 Community
Citizen
Human relations Respect
ด้านสติปัญญา
Standard 9 Language
Communicate
Standard 10 Thinking
Reading and Writing
Standard 11 Imagination
Demonstrated
Standard 12 Learning
New knowledge